กันสาดทึบแสงที่ฮอตฮิตสุดๆในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น ไวนิล ท้องเรียบ และ เมทัลชีท + PU วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบวัสดุทั้ง 2 ตัว ว่าแตกต่างกันอย่างไร เพื่อช่วยลูกค้าในการตัดสินใจเลือกแผ่นหลังคาได้ง่ายขึ้น
วัสดุ
ไวนิล : แผ่น PVC หนา 6 มม.
เมทัลชีท+PU : แผ่นเหล็กรีดลอนโลหะผสมระหว่าง อลูมิเนียม และสังกะสี ความหนามีหลากหลายขนาด มาตรฐานใช้หนา 0.35 มม. ส่วนฉนวน PU มีความหนาหลายขนาดเช่นกัน มาตรฐานใช้ความหนา 1 นิ้ว
สี
ไวนิล : สีขาว สีเดียว อดีตเคยมีสีอื่นๆ เช่น สีแดงอิฐ สีใบจาก และสีอื่นๆ แต่เนื่องด้วยจากแผ่นสีเข้มพอโดนความร้อนมากๆทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขยายตัวของแผ่น ทำให้กันสาดรั่ว ปัจจุบันจึงนิยมใช้กันเฉพาะสีขาว
เมทัลชีท+PU : มี 10 สี++ แต่สีมาตรฐานที่มักจะเห็นใช้กันคือสีอลูซิงค์ (ตามรูปตัวอย่าง)
ท้องแผ่น
ไวนิล : ท้องเรียบ สีขาว เป็นผิว PVC ของตัวแผ่นไวนิล เห็นระยะรอยต่อแผ่นทุกๆระยะ 25 ซม.
เมทัลชีท+PU : ท้องเรียบ สีขาว เป็นผิว PVC ที่ปิดผิวฉนวนPU เห็นระยะรอยต่อแผ่นทุกๆระยะ 25 ซม.
เสียงฝนตกกระทบ
ไวนิล : เสียงเบา
เมทัลชีท+PU : เสียงเบา แต่ดังกว่าไวนิล
ราคา
ไวนิล : 2,800 บาท/ตร.ม.
เมทัลชีท+PU : สีอลูซิงค์ 2,000 บาท/ตร.ม., สีอื่นๆ 2,100 บาท/ตร.ม.
สรุป
– เรื่องเสียงฝนตกกระทบ ไวนิล ท้องเรียบ เสียงเบากว่าเมทัลชีท แม้ว่าจะบุฉนวน PU หนา 1″ ก็ตาม
– เรื่องความสวยงาม ไวนิล ท้องเรียบ ได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากวัสดุที่เป็น PVC ทำให้ดูเข้ากับตัวบ้านมากกว่าเมทัลชีทซึ่งผลิตมาจากโลหะ
– เรื่องกันความร้อน กันได้ดีพอๆกัน เนื่องจากเป็นทึบแสงเหมือนกัน แต่หากเจาะจงแบบลึกๆ ไวนิลจะกันความร้อนได้ดีกว่า เนื่องจากวัสดุเป็น PVC ซึ่งจะมีค่าความเป็นฉนวนกันความร้อนได้มากกว่าเมทัลชีทซึ่งผลิตจากเหล็กจึงอมความร้อน
– เรื่องความคงทน แข็งแรง ทนทาน ทั้งคู่
โดยส่วนใหญ่ของลูกค้า หากไม่ติดเรื่องงบ มักจะเลือกไวนิลท้องเรียบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเหตุผลหลักๆคือ เสียงฝนตกกระทบแผ่นหลังคา และความสวยงาม
แต่ถ้าลูกค้ามีงบที่จำกัด ในส่วนของกันสาดที่เป็นตัวโชว์ เช่น หน้าบ้าน หรือข้างบ้านฝั่งที่ติดกับถนน จะเลือกเป็นไวนิลท้องเรียบ ส่วนด้านหลังบ้าน หรือฝั่งที่ติดบ้านอื่น จะเลือกเป็นเมทัลชีท + PU
ส่วนลูกค้าที่ไม่ซีเรียสเรื่องเสียงฝนตกกระทบหลังคา หรือความสวยงามมากนัก ก็จะเลือกทำเมทัลชีท PU ทั้งหมด
สรุปที่สำคัญที่สุด หากอยากทำกันสาด อย่าลืมนึกถึง Shade Kansard Solution น้า